จนเมื่อพยาบาลสาวที่เป็นคนเข้าไปช่วยเหลือแม่และเด็กที่บาดเจ็บสาหัส ได้โพสภาพเหตุการณ์ระหว่างการช่วยเหลือลงในเฟสบุ๊คชื่อ "หมอซัน วัดจันทร์" เนื้อหาก็อธิบายเกี่ยวกับเหตุการณ์ว่าทำไมสองแม่ลูกต้องมาเจอเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้ พร้อมโพสรูปภาพเด็กนอนหมดสติเลือดท่วมอยู่บนตักของเธอขณะอยู่บนรถแอมบูแลนน์ และภาพเจ้าปัญหานี้แหละคือต้นเหตุที่ทำให้ชาวโซเชี่ยลดูถูกและต่อว่าเธอว่าเรียนจบมาเป็นพยาบาลได้อย่างไรถึงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไม่ถูกต้อง ไม่เซฟตี้!! เธอจึงออกมาอธิบายพร้อมตัดพ้อผ่านทางเฟสบุ๊คของเธอเอง มีใจความดังนี้
ขอบคุณทุกประสบการณ์ในวิชาชีพแพทย์และพยาบาลที่สอนให้รู้ว่า คำว่า "ทฤษฎี" ที่คุณร่ำเรียนมาอย่างจี๋จ๋าและ "สวยหรู"
แต่ในความเป็นจริงไม่สามารถนำมาใช้ในชีวิตจริงได้. ..
...ขอบคุณทุกคำด่า คำสอน คำเหยียบหยามว่า ดิฉันเรียนจบพยาบาลมาได้อย่างไร???
ถึงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไม่ถูกต้อง!!!
ไม่เซฟตี้!!!...
อยากจะบอกว่าในสถานการณ์นี้ทำดีที่สุดแล้ว!!!
ในสถานการณ์คนไข้ 2 คนกับรถแอมบูแลนน์ 1 คันเล็ก ๆ มี พยาบาล 2 คน ที่ต้องดูแลคนไข้ 2 คน
คนหนึ่งเป็นแม่ที่ท้องแก่ใกล้คลอด ไม่เคยฝากครรภ์ ไม่รู้ว่าเด็กในครรภ์อายุครรภ์กี่เดือน. เจ็บท้อง ท้องแข็ง แม่บอกลุกนั่งไม่ได้. เลยอุ้มมานอนบนเปล...
ส่วนลูกก็ถูกยิงกลางหลัง...หลายจุด (ปืนลูกปลาย)
หายใจโรยระริน ใกล้สิ้นใจ... ตัวเย็นซีด เลือดออกมากมาย
ปฐมพยาบาลเบื้องต้นเสร็จ. จึงอุ้มไว้บนตักพยาบาล..แล้วนั่งหน้ารถ..สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด เผื่อหัวใจหยุดเต้นจะได้ปั๊มช่วยชีวิต ... เพราะเปลให้แม่นอนละ
สายออกซิเจนก็ยาวไม่ถึง. จึงใช้สายยางยาวตัดมาจ่อจมูกคนไข้.
รถแอมบูแลนน์เล็ก ๆ นอนได้ 1 คน จึงให้แม่นอนเพราะท้องแข็งกลัวคลอดกลางทาง กลัวลูกในท้องจะไม่ปลอดภัย..
.ถ้าคลอดกลางทางนิสีท่าจะแย่ทั้ง 3 คน
ถนนลูกรัง ถนนไม่ดี .ฝนตก ถนนลื่น.สบัดสบอมมากมาย. ี
จะให้เอาทฤษฎีจี๋จ๋าว่าเอาคนไข้นอนราบ !!! ตลกละคะ..
...ฉันอุ้มคนไข้ไว้... ผิดหลักการวิชาการ!!!
แต่ฉันคิดว่ามีสามัญสำนึกพอคะว่าอุ้มบนตักปลอดภัยที่สุด!!!....นุ่มนวลและเซฟตี้ที่สุดละ
ดีกว่าคนไข้นอนราบ. รถกระโดด ๆ ...ตายพอดีคะ!!!
แค่ว่านำส่งจาก บ้านกิ่วขมิ้นที่เป็นถิ่นทุรกันดารที่สุดไปถึง รพ.นครพิงค์แบบไม่ได้หลับได้พัก... อุ้มสุดทาง... รายะทาง 7-8 ชั่วโมงจนเด็กปลอดภัย...ช่วยเหลือสุดกำลัง
...ถ้าฉันทำผิด-ทำเด็กตายนิ..ทำไม่เต็มที่..ละเลย.ขอบอกขอลาออกเลยค่ะ!!!!
ไม่เคยเสียดายแค่ราชการพยาบาล...ไปทำงานเมืองนอกทำเอกชนยังได้เงินเดือนดีกว่าเยอะแยะ...ไม่ต้องมานั่งโดนด่าเสีย ๆ หาย ๆ แบบนี้
ี
ยิ่งทำดียิ่งได้โบนัส..แต่นิยิ่งทำดียิ่งโดนด่า!!!
ไม่พอเป็นวิชาชีพเดียวกัน
ความรักความสามัคคีเห็นอกเห็นใจ
จะมีให้กันได้บ้างมั้ยคะ????
ฉันทำงานพยาบาลเพราะจิตวิญญาณอยากจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน...
ย้ายกลับจาก กทม. มาเข้าดอย!!! ไม่เคยคิดสวมหมวกสวมชฎาเดินไปหาคนไข้!!!
ส่วนภาพถ่ายที่ไม่เซนต์เซ่อร์
ฉันจะไปกราบขอโทษคนไข้เอง
ฉันจะไม่ถือว่าเป็นคนไข้!!
เขาคือคนดอยคนหนึ่งที่ฉันก็เป็นคนดอย!!
....และไม่ได้หวังจะเด่นจะดังด้วย ... ไม่นึกว่าจะมีคนสนใจหมอดอยอย่างเราด้วยคะ!!!
อย่ามาซ้ำเติมกัน. ...
หมอดอยพยาบาลตามดอยเขาเสียสละขนาดไหนแล้วคะ... ฝนก็ตก ถนนก็ลื่น คลื่นโทรศัพท์ก็ไม่มี เอาชีวิตอยู่บนความเสี่ยงมากมาย
....
หากวันนี้คุณสงสัยว่าฉันทำสิ่งไม่ถูกต้อง!!!
คุณลองมาอยู่ในสถานการณ์แบบฉันมั้ย
อยากรู้ว่าคุณจะตัดสินใจอย่างไง????
คุณทำได้เท่าฉันมั้ย???
ทำดีกว่าฉันมั้ย???
อยากท้าคะ!!!!
ขอบคุณคุณหมอคุณพยาบาล คุณๆ ที่มีวิชาการมากมายทุกท่าน
ที่ด่าดิฉันและดูถูกดิฉันนะค่ะ
จะฟ้องฉันที่ไหน???
สภาการพยาบาลหรือกระทรวงหรือสำนักงานสาธารณสุข
ฉันพร้อมคะ!!!
ก่อนจะดุจะด่าจะคอมเม้นท์อะไร...
กรุณาหาข้อมูลดี ๆ
การไม่ช่วยให้กำลังใจคนอื่นก็ควรอยู่เฉย
วิชาชีพเดียวกัน
สามัญสำนึกไม่เหมือนกัน
หัดคิดบวกบ้าง
source : news.boxza.com
0 comments Blogger 0 Facebook
Post a Comment